มิติแรก ต้องดูว่านอกจาก P/E ที่สูงนั้น มีส่วนกำไรของบริษัทในตลาดนั้นๆ จะโตมากไหม เช่น สองตลาดมี P/E ที่เท่ากัน แต่ตลาดหนึ่งกำไรปีหน้าคาดว่าจะโต 5% แต่อีกตลาดคาดว่ากำไรจะโต 10% แม้ว่าข้างต้นบอกว่า P/E เท่ากัน คือ ราคาที่แท้จริงเท่ากัน แต่บริษัทที่คาดว่ากำไรจะโตมากกว่าก็จะถูกกว่า เพราะพอกำไรปีหน้ามากขึ้น หรือตัว E ที่เป็นตัวหารมากขึ้น P/E ก็ลดลง คือถ้า P/E เท่ากันแน่นอนว่าก็ควรเลือกตลาดที่คาดว่ากำไรจะโตมากกว่า พูดง่ายๆ คือถ้ากำไรโตมาก นักลงทุนก็ยอมจ่ายราคาแพง เพราะปีหน้าพอกำไรเพิ่มขึ้นค่า P/E ก็ลดลงกลายเป็นถูกเอง
มิติที่สอง การดูค่า P/E เทียบกับสถิติในอดีตว่าค่า P/E นั้นเคยแกว่งตัวอยู่ในช่วงใด โดยปกติแล้วค่า P/E ของตลาดมักจะแกว่งตัวอยู่ประมาณ 10-18 เท่า โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 14 เท่า ถ้าช่วงไหนค่า P/E ตลาดเข้าไปใกล้ 16-18 เท่า ก็มักจะคุยกันติดปากว่าตลาดเริ่มแพง แต่ถ้าช่วงไหนค่า P/E ตลาดอยู่ 10-12 เท่า ก็มักจะบอกกันว่าถูกแล้วน่าทยอยสะสม
มิติที่สาม การดูค่า P/E ตลาดไทยเมื่อเทียบกับตลาดอื่น เนื่องจากไทยไม่ได้เป็นตลาดปิดอยู่คนเดียวในโลก ปัจจุบันเงินทุนเคลื่อนไหวเสรี ผู้จัดการกองทุนระดับโลกที่ดูแลเงินเป็นหลายล้านเหรียญ สามารถย้ายเงินจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง ก็จะต้องเปรียบเทียบว่าตลาดไหนถูกแพง เช่น อาจจะมองว่าตลาดไทยมี P/E ที่ 16.5 เท่า จะดูแพงเมื่อเทียบกับสถิติในอดีต แต่ถ้าตลาดเพื่อนบ้านอื่นๆ เช่น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย หรือแม้แต่อินเดีย ที่มีอัตราการเติบโตของกำไรพอๆ กัน ก็มีค่า P/E ของตลาดที่ 16-18 เท่า ซึ่งแบบนี้ไทยก็ไม่ได้แพงกว่าประเทศอื่นในสายตาของนักลงทุนต่างชาติ
มิติที่สี่ เรื่องค่าเงิน ในมุมมองของนักลงทุนต่างชาติหรือผู้จัดการกองทุนระดับโลกแล้ว เวลามาซื้อตลาดหุ้นไทยเมื่อมีกำไร (หรือขาดทุนก็ตาม) แต่เมื่อขายแล้วก็ต้องแลกเงินกลับเป็นดอลลาร์ ยูโร หรือ เยนกลับประเทศ ฉะนั้นค่า P/E ที่ใช้เปรียบเทียบความถูกแพงของตลาดหุ้นต่างๆ นั้น จริงๆ แล้วต้องทอนด้วยค่าเงินด้วย จะเอา P/E มาเทียบกันตรงๆ เลยไม่ได้ ส่วนการทอนค่าเงินนั้นก็ใช้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของสองสกุลเงินมาเป็นตัวทอน ก่อนที่จะนำค่า P/E และการเติบโตของกำไรของตลาดต่างๆ มาเทียบกัน
โดยสรุปถ้าเข้าใจวิธีการมองตลาดทั้ง 4 มิติแล้ว ก็จะสามารถปรับพอร์ตให้เหมาะสมได้ อาจขายทำกำไรบ้างในยามที่ตลาดแพง และเก็บเงินไว้ลงทุนเพิ่มในยามที่ตลาดปรับลงมาถูก เพื่อสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนให้ได้มากที่สุด